ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับขนาดประตู

กลอนเคล็ดลับ ดี/ร้าย
ประตูสูงเกินไป นิสัยหยิ่งผยองทระนง อัปมงคล
ประตูต่ำเกินไป ยอมก้มหัวเป็นบ่าวไพร่ อัปมงคล
ประตูกว้างเกินไป เงินทองสูญสลาย ร่างกายอ่อนแอ อัปมงคล
ประตูแคบเกินไป ใจคอคับแคบ อัปมงคล
ประตูสูงเกินกว่าระดับห้องโถง ไร้ลูกหลานสืบสกุล อัปมงคล
ประตูสูงกว่าระดับฝาผนัง เจ้าของบ้านโศกเศร้าเป็นนิจ อัปมงคล


ประตูสูงเกินไป นิสัยหยิ่งผยองทระนง
กรอบประตูสูงเกินไป ผู้อยู่อาศัยเย่อหยิ่งทระนง
ประตูบ้านไม่ควรสูงเกินความจำเป็น ถ้าสูงเกินไปเมื่อคนในบ้านเดินออกไป ก็มักจะแหงนดูซุ้มประตูด้านบนประตูบ้านเกิดทัศนคติมองสูง ชอบมีหน้าตาชื่อเสียงทางสังคม ชอบอื่นมาเยินยอ เมื่อประกอบการงานใดๆ ก็มักจะคิดสูง แต่ฝีมือทำได้ไม่ถึง


ประตูต่ำเกินไป ยอมก้อมหัวเป็นบ่าวไพร่
กรอบประตูเตี้ยเกินไป ผู้อยู่อาศัยฐานะต่ำต้อย มักจะโดนข่มเหงรังแก
ประตูบ้านไม่ควรสร้างให้เตี้ยเกินไป เพราะทำให้คนเดินเข้าออกต้องก้มหัวงอหลังนานวันเข้าจะติดนิสัยก้มหัวมองแต่พื้น จึงมองโลกได้เพียงสั้น ๆ คิดอะไรก็ไม่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล ดวงชะตาชีวิตมีแต่จะได้เป็นลูกน้องบ่าวไพร่ให้แก่ผู้อื่น ยินยอมก้มหัวให้ผู้อื่นข่มเหงรังแก

เกร็ดตำนวนเกี่ยวกับฮวงจุ้ย
ประตูควรสูงระดับใดจึงเหมาะสม
ประตูควรมีระดับความสูงอย่างพอเหมาะ ทางที่ดีควรมีระดับความสูงที่ 2ใน3 ของระดับความสูงของชั้นตึก หรือระดับความสูงของชั้นบ้าน หรือระดับ 6-7 ศอกจีน 180-210 เซนติเมตร จึวจะพอเหมาะที่สุด หากจำเป็นต้องสร้างประตูที่สูงเกินไป ควรทำช่องระบายอากาศด้านบนเอาไว้


ประตูกว้างเกินไป เงินทองสูญสลาย ร่างกายอ่อนแอ
ประตูเปิดกว้างเกินไปจะทำให้ไม่สามารถกักตุนลมปรารณแห่งโชคลาภไว้ได้
ประตูบ้านเปิดกว้างเกินไปจะทำให้ยากต่อการกักตุนลมปราณแห่งโชคลาภไว้ในบ้าน เนื่องจากประตูใหญ่ของบ้านถือเป็น "ปากน้ำ" ถ้าหาก "ปากน้ำ" กว้างเกินไป น้ำที่อยู่ภายในก็จะไหลออกไปข้างนอกจนหมดสิ้น น้ำเป็นสัญญลักษณะของลาภทัพย์ ฉะนั้นประตูบานใหญ่เกินไปจะทำให้ครอบครัวไม่สามารถเก็บตุนทรัพย์สินเงินทองให้อยู่กับบ้านได้ ขณะเดียวกัน สมาชิกในครอบครัวก็จะแยกหายตายจาก ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านก็จะมีสภาพร่างกายอ่อนแอ ผู้สูงอายุในบ้านจะรู้สึกเหนื่อยยากลำบาก ในแง่เดียวกัน หน่าต่างก็จะเหมือนประตู ไม่ควรสร้างให้มีบานใหญ่เกินความจำเป็น

เกร็ดตำนานเกี่ยวกับฮวงจุ้ย
ตำนวนปริศนาหอนกกระจอกทองแดงในยุคของโจโฉ
ในสมัยสามก็ก มีตำนานเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับประตูที่สร้างไว้ใหญ่เกินไป ยุคนั้นเป็นช่วงที่โจโฉได้รับตำแหน่งเป็นมหาอุปราช สำเร็จราชการแทนฮ่องเต้ซึ่งยังเยาว์วัย โจโฉได้สั่งให้ช่างฝีมือสร้างหอสูงขึ้นมาแห่งหนึ่ง เรียกว่า "หอนกกระจอกทองแดง" เมื่อช่างสร้างเสร็จ โจโฉได้เดินทางไปตรวจรับงาน เมื่อเดินตรวจได้พักหนึ่งก็ไม่ได้พูดจาอะไร แต่สั่งให้คนใช้เอาพู่กันและหมึกมา จากนั้นโจโฉได้เขียนตัวหนังสือไว้บนบานประตู 2 บาน บาน ซ้ายคือ และบานขวา คือ แล้วก็จากไปอย่างอารมณ์ไม่เบิกบาน

ช่างผ้คุมงานเห็นท่าไม่ดี แต่ไม่รู้ว่าท่านโกรธเรื่องอะไร จึงได้แต่วิตกกังวลว่าครอบครัวจะได้รับเคราะห์ประหารชิอตหรือเปล่า ขณะที่กำลังกลุ้มหนักอยู่นั้น มีปัญญาชนคนหนึ่งชื่อ "หยางซิว" มาเห็นเข้า แล้วบอกคำเฉลยของตัวหนังสือปริศนาใหผู้คุมงานว่า ท่าโจโฉแค่ไม่ชอบที่ประตูใหญ่เกินไป เนื่องจากตัวหนังสือ 2 คำดังกล่าว เมื่อนำมาประกอบกัน จะได้คำว่า และเมื่ออยู่ในกรอบประตูก็กลายเป็นคำว่า ซึ่งมีความหมายว่า "กว้าง" ฉะนั้น ท่านมหาอุปราชแค่ไม่พอใจที่ประตูกว้างเกินไป แค่แก้ไขให้ประตูแคบลงสักนิดก็น่าจะผ่านการตรวจรับงาน

เมื่อแก้งานเสร็จ โจโฉได้มาตรวจอีกครั้ง แล้วแสดงความพอใจมาก แต่ท่านก็เกิดความคิดเจ้าเล่ห์ขึ้นมา ถามผู้คุมงานว่าใครเป็นผู้ไขปริศนี้ ช่างผู้คุมงานก็ตอบไปตามตรง โจโฉเห็นว่าหยางซิวเป็นผู้มีวิชาความรู้และไหวพริบปฎิภาณ ต่อไปภายหน้าอาจเป็นพิษภัยต่อตน จึงเกิดความคิดที่จะกำจัดหยางซิวเสีย

ตำนานเรื่องนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ว่า ชาวจีนโบราณให้ความสำคัญกับขนาดของประตู โดยเชื่อว่าร ถ้าหากประตูกว้างใหญ่เกินไป ย่อมส่งผลเสียต่อสภาพฮวงจุ้น โจโฉเห็นประตูบานใหญ่แล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเข้าใจว่าประตูบานใหญ่ก็เหมือนโดนสาบชางในทางอ้อมให้เกิดความล่มจมได้


ประตูแคบเกินไป ใจคอคับแคบ
ประตูแคบเกินไป อุปนิสัยใจคอของผู้อยู่อาศัยก็จะคับแคบลงไปด้วย
ชาวจีนมีสำนวนโบราณว่า "มองคนผ่านช่องประตู เท่ากับปรนระเมินคนต่ำเกินไป" คนที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีประตูแคบเกินไปอาจจะไม่ถึงกับเป็นคนหยิ่งทระนง ไม่วางผู้อื่นไว้ในสายตา แต่จะมีนิสัยใจแคบ คิดสั้น อิจฉาริษยาคนที่มีความสามารถเหนือตนเอง ประตูบ้านควรมีขนาดกว้างเท่ากั[คน 2 คน เดินสวนกันผ่านเข้าออกได้อย่างสะดวกก็เพียงพอ

ประตูสูงกว่าระดับห้องโถง ไร้ลูกหลานสืบสกุล
ประตูอยู่ในระดับสูงกว่าเพดาห้องโถง จะทำให้ไร้ผู้สืบทอดเชื้อ้สายวงศ์ตระกูล
ตั้งประตูไว้สูงมากจนกรอบด้านบนสูงกว่าระดับเพดานของห้องโถงหรือห้องรับแขก ลักษณะเช่นนี้จะส่งผลให้ประชากรในครอบครัวลดน้อยลงเรื่อย เรื่อย
ยกตัวอย่าง ที่สำนักงานใหญ่เดิมของพรรคคณะชาติก๊กมินตั๋งที่กรุงไทเป มีลักษณะซุ้มประตูด้านบนสูงเหนือระดับเพดานห้องโถง ข้าพเจ้าเคยทักไว้ในการจัดรายการทีวี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1997 ในรายการ "ศาสตร์เห่งหยางเทพหลู่ปาน" ข้าพเจ้าบอกว่า สำนักงานใหญ่ของพรรคก๊กมินตั๋ง มองในแง่ฮวงจุ้ย เข้าข่าย "ประตูสูงเกินระดับห้องโถง" จะทำให้ขาดผู้สืบทอดเจตนารมณ์ เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี คำทำนายนี้ได้กลายเป็นจริงแล้ว
นอกจากนี้ วัดหลายแห่งนิยมสร้างซุ้มประตูไว้บริเวณหน้าทางเข้า ซุ้มประตูลักษณะนี้ไม่ควรมีระดับสูงเกินกว่าสิ่งก่อสร้างหลักของวัด ในเมืองไท่หนานซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของไต้หวัน มีวัดบูชาเทพเจ้าซึ่งหลายแห่งเดิมมีผู้ศรัทธาเข้ามาเซ่นไหว้บริจาคเงินการกุศลไว้มากมาย ต่อมาได้มีการสร้าซุ้มประตูสูงไว้เพื่อประดับวัด หลังจากนั้นเงินบริจาคก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ สาเหตุเพราะประตูด้านหน้าที่สูงเกินไปอาจเข้าข่ายลักษณะ "ประตูสูงกว่าระดับห้องโถง" และกำแพงที่สูงเกินไปจะทำให้เกิดผลกระทบในลักษณะเช่นเดียวกัน


ประตูสุงกว่าระดับฝาผนัง เจ้าของบ้ายโศกเศร้าเป็นนิจ
บ้านที่โปร่งแสงมากเกินไป จะส่งผลให้สมาชิกครอบครัวตายเร็ว
หมู่บ้านบางแห่งในกรุงไทเปออกแบบตัวบ้านให้มีฝาผนังทึบแสงที่เตี้ยมาก และส่วนอื่น ๆ ใช้เป็นผนังกระจกบานใหญ่และสร้างประตูสูงเหนือกำแพงส่วยนที่ก่อด้วยก้อนอิฐทึบแสง ด้านบนซึ่งเป็นพื้นที่โปร่งแสง เนื่องจากแสงแดดส่องผ่านกระจกเข้าไปสู่ภายในห้องได้เป็นเวลานาน จึงถือว่าไม่ดีสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย เนื่องจสากโปร่งสแงมากเกินไปผู้อยู่อ่ศัยขาดความเป็นส่วนตัว ฉะนั้นอาศัยอยู่ในบ้านลักษณะนี้จะมีเคราะห์กรรมตายเร็ว ซึ่งยังตรงกับลักษณะ "บ้านตากศพ" ด้วย

อ้างอิง หนังสือ ชื่อ ฮวงจุ้ย บ้านพักอาศัย เสริมบารมี ลาภทรัพย์ บ้านร่มเย็นน่าอยู่ เขียนโดย อาจารย์อู๋จางอี๋ นักโหรศาสตร์ชื่อดังแห่งไต้หวัน แปลโดย คุณ กมล กฤปานันท์